"ผงไหม" ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน มันมีประโยชน์เช่นนี้นี่เอง

     เนื่องจากเป็นความรู้ใหม่ที่ดิฉันก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน ว่าผงไหม คืออะไร  แต่พอได้อ่านก็รู้ว่ามีประโยชน์มากเหมือนกัน 



        เส้นใยไหมเป็นเส้นใยธรรมชาติ ที่มีคุณค่าต่อมนุษย์ในด้านสิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่มมานานนับพันปี แต่วิทยาการของโลกปัจจุบันได้มีการพัฒนานำ เส้นไหม รังไหมและเศษเหลือใช้จากเส้นไหม มาแปรรูปเป็นผงไหมสถาบันวิจัยหม่อนไหม กรมวิชาการเกษตร ได้ค้นคว้าวิจัยผลิตผงไหม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรมด้วยการศึกษาวิจัยผลิตผงไหม ทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ
จากส่วนของ Fiborin และ Sericin ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนที่มีคุณค่ามหาศาล ต่อร่างกายในทางการแพทย์และโภชนาการเช่น
     Glycine : จะช่วยควบคุมระดับโคเลสเตอรอลป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
     Alanine : เป็นแหล่งพลังงานสำคัญ   เป็นแหล่งสะสมน้ำตาล glucose ในตับและกล้ามเนื้อ จึงช่วยลดน้ำตาลในเลือด ในกรณีเป็นโรคเบาหวาน
      นอกจากจะมีสารที่มีประโยชน์อีกมากมายในทางการแพทย์แล้วยังมีสาร Glutamic acid ที่ช่วยป้องกันผิวแห้งซึ่งเหมาะที่จะใช้ทำ Moisturizing

ผงไหม” คือ โปรตีนที่ผลิตมาจากส่วนของใยไหมซึ้งมี 2 ชนิดด้วยกัน คือ



ผงไหมจากกาวไหม ที่เรียกว่า ผงไหมซิริซิน
ผลไหมจากเส้นใยไหม ที่เรียกว่า ผงไหมไฟโบรอิน ซึ่งมีทั้งชนิดที่ละลายน้ำและชนิดที่ไม่ละลายน้ำ ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการผลิต
          
         สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ หรือ สทน.ได้ทำการวิจัยร่วมกับกรมวิชาการเกษตร พบว่าผงไหสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เครื่องสำอาง และ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เพราะมีกรดอะมิโนอยู่มากถึง 16-18 ชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาแผลให้หายเร็ซขึ้น สามารถกำจัดเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังทั้งยังช่วยรักษาปริมาณน้ำในผิวหนัง กำจัดสิ่งสกปรกในเซลล์และยืดอายุเซลล์ได้อีกด้วย อีกทั้งผงไหมพันธุ์ไทยยังมีคุณสมบัติบางชนิดที่เด่นในปริมาณที่มากกว่าพันธุ์ไหมของต่างประเทศ เช่น มีสารช่วยป้องกันผิวแห้งและลดแอลกอฮอล์ในตับ ซึ้งมีมากกว่าถึง 3 เท่า มีสารช่วยความจำ ช่วยกระตุ้นการเต้นของหัวใจมากกว่า 2 เท่า และมีสารลดการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสและสารต้านไวรัสมากกว่าถึง 4 เท่า

     **  การเพิ่ม “ผงไหม” ในอาหารยังเป็นการเพิ่มคุณค่าอาหารด้วย เนื่องจาก ผงไหม ยังมี สารช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด, สลายแอลกอฮอล์ในร่างกาย ช่วยความจำ และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ฯลฯ

       ผลิตภัณฑ์อาหารที่สามารถนำผลไหมไปเป็นส่วนผสมได้ ก็มี ไส้กรอก กุนเชียง ลูกชิ้น ไอศครีม บะหมี่ หมูยอ ซึ้งผงไหม จะช่วยให้ อาหารมีความนุ่ม เหมือนกับของทำออกมาใหม่ ลักษณะเนื้อเหมือนมีส่วนผสมหมูเนื้อแดง ในอัตราส่วนที่มา และมีสีสันยังสด เนื้อนุ่มชวนกิน และ้ถ้านำไปผสมในโยเกิร์ตหรือไอศครีม จะทำให้มีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เนียน ไม่ละลายง่าย และุถ้าในบะหมี่ก็ทำให้เนียวนุ่ม ไม่ยุ่ย อีกด้วย

        ในไทยนั้นมีเศษไหมเหลือปีละ 300 ตัน หากนำไปเผาทิ้งก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของภาวะโลกร้อน แต่หากนำมาสกัดเป็นผงไหมจะได้มูลค่าเพิ่มขึ้น โดยต้นทุนวัตถุดิบเศษไหมที่ปีหนึ่งมูลค่า 100 ล้านบาท สามารถเปลี่ยนผงไหมมูลค่า 1,800 ล้านบาท และหากนำไปต่อยอดผลิตภัณฑ์จะเพิ่มมูลค่าได้อีก 10 เท่า

แหล่งที่มา: เอกสารของสถาบันเทคโนโลยีนิวเครียร์แห่งชาติ

0 ความคิดเห็น: